ปัจจุบันนี้การดูแลผิวถือเป็นเรื่องที่ใครๆ ต่างก็ให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเพศไหน อายุเท่าไหร่ ก็ล้วนแต่ต้องการการบำรุงผิว เพื่อให้ใบหน้าของตนเองดูดีอยู่เสมอ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์สกินแคร์ใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย และผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในช่วงนี้ก็คือบูสเตอร์นั่นเอง อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะสงสัยแล้วใช่มั้ยล่ะว่าบูสเตอร์คืออะไร แล้ว เซรั่มกับบูสเตอร์ต่างกันยังไง? หรือผลิตภัณฑ์ตัวอื่นอย่างไร วันนี้ โรงงานผลิตครีม วธูธร เราจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
บูสเตอร์ กับ เซรั่มต่างกันยังไง แล้วบูสเตอร์ (Booster) คืออะไร?
บูสเตอร์ (Booster) คือ สกินแคร์ประเภทหนึ่งที่คล้ายกับ เซรั่ม (Serum) เพียงแต่มีส่วนผสมและเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นมากกว่าทำให้มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวสูงกว่า โดยจะช่วยบูสต์ผิวแบบเร่งด่วนให้ผิวดูมีชีวิตชีวา แก้ปัญหาผิวแต่ละชนิดได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สกินแคร์ตัวอื่น ๆ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์บูสเตอร์ออกมามากมายหลายสูตร ช่วยตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของการใช้งานบูสเตอร์นั้นก็ง่ายแสนง่าย เราสามารถใช้บูสเตอร์แบบเพียว ๆ เลยก็ได้ หรือจะนำไปใช้ผสมกับสกินแคร์ตัวอื่นที่เราใช้อยู่เป็นประจำก็ได้เช่นกัน โดยสามารถลงบูสเตอร์ก่อนเป็นขั้นตอนแรก จากนั้นตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ หรือสกินแคร์ตัวอื่น ๆ ซึ่งข้อดีของการใช้บูสเตอร์ที่อยู่ในรูปแบบของเซรั่ม จะทำให้บูสเตอร์ตัวนั้นมีความเข้มข้นสูงกว่าเซรั่มชนิดอื่น ๆ จึงสามารถแก้ไขปัญหาผิวเรื่องนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุดมากยิ่งขึ้น บูสเตอร์จึงเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอีกชนิดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับคนที่ต้องการบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้าในชั่วโมงเร่งด่วน
ทั้งนี้ข้อควรระวังของการใช้บูสเตอร์คือควรดูว่าส่วนผสม Active Ingredients ในบูสเตอร์นั้น ๆ สามารถใช้ร่วมกันได้ไหม เพราะสารสกัดบางตัวก็ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ สารอีกตัวอาจไปลดประสิทธิภาพของอีกตัว หรืออาจทำให้ใบหน้าเราระคายเคืองขึ้นมาได้ ดังนั้นก่อนจะใช้สกินแคร์แต่ละชนิดต้องควรรู้เสียก่อนว่าส่วนผสมของสกินแคร์แต่ละตัวสามารถใช้ร่วมกันได้ไหม หากใช้สกินแคร์แต่ละชนิดโดยที่ไม่รู้ว่าส่วนผสมแต่ละตัวสามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ อาจทำให้เราหน้าพังโดยไม่รู้ตัวได้ ว่าแต่มีส่วนผสมอะไรบ้างในสกินแคร์ที่ห้ามใช้ร่วมกันตามไปดูกันเลยค่าา
เซรั่มกับบูสเตอร์ต่างกันยังไง ส่วนผสมในสกินแคร์ “ที่ห้ามใช้ร่วมกัน”
Retinol vs Vitamin C
สองตัวนี้สรรพคุณจะดีมากเมื่อใช้แยกกัน ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ปรับผิวให้ขาวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย แต่ถ้านำมาใช้ร่วมกันเมื่อไหร่ รับประกันได้ว่าพังแน่นอน ทั้งสองตัวจะทำงานที่ค่า pH ไม่เท่ากัน ทำให้ไปทำลายประสิทธิภาพของกันและกัน
Vitamin C vs Benzoyl Peroxide (BPO)
สองตัวนี้สาว ๆ หลายคนน่าจะรู้จักอยู่แล้ว โดยเฉพาะตัว BPO ที่ผู้มีปัญหาสิวแทบทุกคนต้องรู้จักแน่นอน แต่รู้หรือไม่สารสองชนิดนี้ หากใช้ร่วมกันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำให้ผิวบางและราคายเคืองง่ายกว่าเดิม ทำให้เกิดการอักเสบของสิวมากยิ่งขึ้น
Salicylic vs Glycolic
สองตัวนี้ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ดีมาก แต่อย่าใช้ร่วมกันถ้าไม่อยากหน้าพัง เพราะแต่ละตัวใส่ AHA และ BHA มาสูง หากใช้ร่วมกันจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง หน้าลอก บอบบาง ไม่แข็งแรง
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ ความแตกต่างของเซรั่มกับบูสเตอร์ และหากใครที่กำลังสนใจอยากเป็นเจ้าของแบรนด์ เซรั่ม หรือ บูสเตอร์ ก็สามารถติดต่อ โรงงานผลิตครีม วธูธร เพื่อสอบถามหรือปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ได้เลย ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
