ธุรกิจสกินแคร์ ในไทย น่าลงทุนมากแค่ไหน อะไรที่ต้องรู้ก่อนเริ่ม?
ธุรกิจสกินแคร์ หรือธุรกิจความงามในไทย น่าลงทุนมากแค่ไหน? ใครหลายคนที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ คงอยากเปลี่ยนจากผู้บริโภค มาเป็นเจ้าของแบรนด์เอง ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกว่า เข้าใจในความต้องการดี หรือต้องการสร้างธุรกิจเพื่อเป็นรายได้ให้กับตัวเอง แต่ว่าการลงทุนในธุรกิจสกินแคร์ ตอนนี้ ยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่ วันนี้ โรงงานผลิตครีม วธูธร โรงงานผลิตเครื่องสำอาง และสกินแคร์ พร้อมบริการสร้างแบรนด์ครบวงจร มาตรฐานสากล เราพร้อมให้คำตอบกับคุณ
ภาพรวมของธุรกิจสกินแคร์ในประเทศไทย
ธุรกิจสกินแคร์ บิวตี้ หรือธุรกิจความงามในประเทศไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพสูงมากในตลาดปัจจุบัน ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการด้านความงามของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง สปา และการศัลยกรรมความงาม ทั้งนี้ เนื่องจากความใส่ใจในสุขภาพและความงามกลายเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้คนให้ความสนใจมากขึ้น จึงส่งผลให้ธุรกิจสกินแคร์มีการพัฒนาและปรับตัวตามแนวโน้มของผู้บริโภคอย่างไม่หยุดนิ่ง
มูลค่าตลาดของธุรกิจบิวตี้ หรือ ธุรกิจความงาม ในประเทศไทย
ในปี 2022 ประเทศไทย เป็นหนึ่งในตลาดธุรกิจบิวตี้ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.46 แสนล้านบาท ซึ่งธุรกิจบิวตี้ที่ครองตลาดในประเทศไทย จากการสำรวจ พบว่ามีดังนี้
- ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ – มีส่วนแบ่ง 46.8% ซึ่งแบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าในสัดส่วน 84% และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย 16%
- ผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผม – มีส่วนแบ่ง 18.3%
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย – มีส่วนแบ่ง 16.3%
- ผลิตภัณฑ์ตกแต่งใบหน้า – มีส่วนแบ่ง 13.5%
- น้ำหอม – มีส่วนแบ่ง 5.1%
อ้างอิง: https://blog.mandalasystem.com/th/cosmetics-market-in-thailand
แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจบิวตี้ในประเทศไทย
อัตราการเติบโตของธุรกิจบิวตี้ในประเทศไทยในปี 2024 มีการคาดการณ์ไว้ว่า จะมีอัตรการเติบโตประมาณ 9 – 9.3% โดยเครื่องสำอางแบรนด์ไทย เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากราคาที่จับต้องได้ มีการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ และอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจบิวตี้ในไทยได้รับความนิยม มาจากเทรนด์การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมากขึ้น และนั่นเป็นข้อได้เปรียบที่ประเทศไทยมี
อ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1130392
เทรนด์และนวัตกรรมในธุรกิจสกินแคร์ และธุรกิจบิวตี้ 2024
ในปี 2024 นี้ มีเทรนด์และนวัตกรรมในธุรกิจบิวตี้ที่น่าสนใจและน่าจับตามอง
- Clean Beauty – สินค้าบิวตี้ที่มีความบริสุทธิ์ หรือเลือกใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- Beauty Tech – การผสมผสานระหว้างความงามและเทคโนโลยี จะเห็นได้ว่าหลายๆ แบรนด์มีการนำ AI มาวิเคราะห์ความต้องการที่มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงความต้องการ
- ครีมกันแดดมาแรง – เนื่องด้วยสภาพอากาศของประเทศไทย ที่มีการเผชิญกับแสงแดดตลอดปี ครีมกันแดดยังคงเป็นที่นิยม และกลุ่มผู้บริโภคจะเน้นไปที่ครีมกันแดดประสิทธิภาพสูง แต่เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนอะหนะ
- K-Beauty – สไตล์การแต่งหน้า และการบำรุงผิวแบบเกาหลียังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์จากเกาหลี หรือแบรนด์ไทยที่มีการใช้ส่วนผสมจากเกาหลีก็ตาม
- ผิวขาวใส – ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Brightening ยังคงครองอันดับในใจคนไทยเสมอ ไม่ใช่แค่เพียงการทำให้ผิวขาวใสขึ้น แต่รวมถึังการแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำเฉพาะจุดที่เกิดจากฝ้า ริ้วรอย หรือจุดด่างดำด้วย
จากแนวโน้มการเติบโตและเทรนด์ธุรกิจบิวตี้ในช่วงที่ผ่านมาและกำลังจะเกิดขึ้น เชื่อว่ามีหลายคนที่อยากลงมาในตลาดบิวตี้ด้วยเช่นกัน แต่ก่อนเริ่มลงมือ เราขอพาไปดูข้อดีข้อเสียของการลงทุนในธุรกิจบิวตี้กันก่อน
ข้อดีและข้อเสียในการลงทุนในธุรกิจสกินแคร์ หรือ ธุรกิจบิวตี้
ข้อดี
-
ตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูง
ตลาดธุรกิจบิวตี้ในประเทศไทยยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่งและมีความหลากหลายมากขึ้น
-
โอกาสในการสร้างรายได้ที่สูง
เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความต้องการสูง โอกาสในการสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องจึงมีมาก
-
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการ
ธุรกิจบิวตี้มีความหลากหลายในด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถเสนอให้กับผู้บริโภค ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดได้หลายด้าน หรือต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่มีได้หลากหลาย
ข้อเสีย
-
การแข่งขันที่สูง
ธุรกิจบิวตี้เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง เนื่องจากปัจจุบันนี้ การสร้างแบรนด์นั้นง่ายขึ้น และมีคนให้ความสนใจในธุรกิจบิวตี้มากขึ้น การแข่งขันในธุรกิจบิวตี้จำเป็นต้องมีจุดขายที่แตกต่างและน่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้า
-
ความเสี่ยงในการลงทุน
ด้วยความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่มีหยุด การลงทุนในธุรกิจบิวตี้จึงมีความเสี่ยงในด้านความไม่แน่นอน จะต้องมีการปรับตัวไปเรื่อยๆ ให้ทันกับความต้องการของตลาด
-
ความต้องการในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
เพื่อที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขัน เจ้าของแบรนด์จำเป็นต้องลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ถ้าพิจารณาจากข้อดีข้อเสียในการลงมาในธุรกิจบิวตี้แล้ว คุณยังอยากไปต่อ ขั้นต่อไปที่จะช่วยคุณให้เริ่มสร้างแบรนด์ในธุรกิจบิวตี้ได้ คือการหาพาร์ทเนอร์ หรือโรงงานสำหรับผลิตสินค้า
การหาพาร์ทเนอร์โรงงานผลิต OEM สำหรับเครื่องสำอาง
โรงงาน OEM (Original Equipment Manufacturer) มีบทบาทสำคัญในการผลิตสินค้าและช่วยให้คุณการสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด การเลือกโรงงาน OEM ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจบิวตี้ประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว ซึ่งปัจจัยในการเลือกโรงงาน OEM ที่คุณควรต้องเช็กก่อนเลือกมีดังนี้
-
คุณภาพและมาตรฐานการผลิต
โรงงาน OEM ที่เลือกต้องมีการผลิตที่ได้มาตรฐานสากลและมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ตรงต่อความต้องการของตลาดอยู่เสมอ
-
ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของโรงงาน
คุณควรเลือกโรงงานที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมบิวตี้และมีความเชี่ยวชาญในหลากหลายการผลิตสินค้า เพื่อให้รองรับความต้องการของคุณในตอนนี้ รวมถึงในอนาคตด้วยเช่นกัน
-
การได้รับการรับรองและใบอนุญาต
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ การเลือกโรงงานที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า
-
ความสามารถในการผลิต (ปริมาณ , ความหลากหลาย)
โรงงานที่มีความสามารถในการผลิตในปริมาณที่ต้องการและมีความหลากหลายในการผลิตสินค้า จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
การบริการหลังการขายและการสนับสนุนลูกค้า
ในการเริ่มต้นสร้างแบรนด์บิวตึ้ของตัวเอง แต่คุณไม่ได้มีเวลา หรือ ความเข้าใจในองค์ประกอบอื่นๆ นอกจากการผลิต การเลือกโรงงานที่มีการบริการหลังการขายที่ดีและสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ รวมถึงการมีบริการสร้างแบรนด์ ทำ Packaging การตลาด และอื่นๆ จะเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่ง
โรงงานผลิตครีม วธูธร พาร์ทเนอร์สร้างแบรนด์ใน ธุรกิจสกินแคร์ และธุรกิจบิวตี้ ครบวงจร ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สร้างแบรนด์สกินแคร์
- RESEARCH & DEVELOPMENT – รองรับทุกไอเดียที่คุณต้องการ ด้วยบริการวิจัย และ พัฒนาสูตร โดยนักผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ( R&D SPECIALIST) โดยนักวิจัย เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ พร้อมทีมที่ปรึกษา
- PACKAGING DESIGN & BRANDING – ออกแบบโลโก้สินค้า แบนเนอร์ แพคเกจจิ้ง และงานอาร์ตเวิร์ค ให้มีความสวยงาม น่าสนใจ น่าดึงดูด บ่งบอกถึงเอกลักษณ์แบรนด์ ตอบโจทย์ความต้องการ
- CERTIFICATE DOCUMENT – อำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยบริการจดแจ้งเอกสารรับรอง ขอหนังสือรับรองการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และ ยากระทรวงสาธารณสุข (อย.)(CFS) เพื่อแสดงว่าสามารถจัดจำหน่ายทั้งในประเทศ และ หนังสือรับรอง (Certificate of Origin) ว่ามีการผลิตที่แท้จริงในประเทศ เพื่อใช้รับรองการขอใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในการนำเข้า
- บริการอื่น ๆ แบบครบวงจร – ทั้งสตูดิโอถ่ายภาพสินค้า สร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงบริการให้คำแนะนำการสร้างตัวตนของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักผ่าน E-Commerce และช่องทาง Social Media ต่างๆ
ปรึกษาฟรี โรงงานผลิตครีมวธูธร ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
โทรศัพท์ : 02-961-7944
Hotline: 062-598-4224
Email: wathoothornsales@gmail.com, sales@wathoothorn.com
จันทร์ – ศุกร์ : 08.30-17.30 (หยุด เสาร์-อาทิตย์)





