5 สารสกัดลดสิวยอดนิยม ในสกินแคร์ ข้อดีและข้อควรระวังที่ต้องรู้!
สารสกัดลดสิว ในสกินแคร์ เป็นสิ่งสำคัญที่คนที่กำลังวางแผนสร้างแบรนด์สกินแคร์ของตัวเองต้องรู้ เพราะในปัจจุบัน สำหรับผู้บริโภคแล้ว การบำรุงอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่สกินแคร์ที่ใช้ ต้องช่วยลดต้นเหตุของปัญหาผิวได้ วันนี้วธูธรขอพาไปทำความรู้จักกับ 5 สารสกัดลดสิว ในสกินแคร์ยอดนิยม ว่ามีข้อดีอย่างไร และแต่ละชนิดมีข้อควรระวังในการใช้อย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณได้ตัดสินใจเลือกใช้ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ตัวเอง หรือในฐานะผู้บริโภค คุณควรเลือกสกินแคร์แบบไหนให้ช่วยลดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะกับสภาพผิวคุณ โรงงานผลิตครีม วธูธร เรามีคำตอบค่ะ
ทำไมต้องจึงต้องมีสารสกัดลดสิว ในสกินแคร์?
เป็นที่รู้กันว่าสกินแคร์ เป็นตัวช่วยสำคัญในการบำรุง ดูแล และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ หรือการแก้ปัญหารอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ หรือริ้วรอยก่อนวัยอันควรก็ตาม แต่หนึ่งในสาเหตุของปัญหาผิวที่กล่าวมานี้ ส่วนหนึ่งก็ที่มาจาก “สิว” การมีสารสกัดลดสิว ในสกินแคร์จึงนอกจะช่วยดูแลบำรุงผิวแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดการเกิดสิว ทำให้สกินแคร์มีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวตั้งแต่ปลายทางจนถึงต้นเหตุ และในเชิงการตลาดแล้วยังเป็นการเพิ่มจุดขายและความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์สกินแคร์อีกด้วย
กลุ่มเป้าหมายที่นิยมใช้สกินแคร์ลดสิว
แม้ว่าสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดลดสิว จะสามารถใช้ได้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย แต่กลุ่มที่มีความกังวลหรือปัญหาสิวมากที่สุดคือช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยทำงานตอนต้น โดยกลุ่มเป้าหมายหลักที่มักนิยมใช้สกินแคร์ที่มีสารสกัดลดสิวได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง – ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์, ฮอร์โมน, อาหารที่รับประทาน หรือการอักเสบ ติดเชื้อของผิวจากฝุ่นหรือมลภาวะที่พบเจอในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
- ผู้ที่มีผิวมันและรูขุมขนกว้าง – ผู้ที่มีผิวมัน เกิดจากผิวที่ผลิตน้ำมันมากกินปกติจนค้างอยู่ในท่อรูขุมขน จนทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น ส่งผลให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวใช้เวลานานขึ้น จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสิวอุดตันและอื่นๆ ตามมา
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวดูสุขภาพดี – ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่มีการดูแลรักษาผิวพรรณเป็นปกติ และมองหาสกินแคร์ที่สามารถลดสาเหตุปัญหาผิวด้านต่างๆ ได้อย่างรอบด้าน รวมถึงกลุ่มคนที่อาจมองหาสกินแคร์ประเภท All-in-One ที่ตอบโจทย์ในการลดขั้นตอนดูแลผิว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการซื้อสกินแคร์หลายชิ้น
โรงงานผลิตสกินแคร์ วธูธร ขอพาทุกคนมาทำความรู้จัก กับ 5 สารสกัดลดสิวในสกินแคร์ ที่แบรนด์ดังในตลาดเลือกใช้
1.𝗡𝗮𝘁𝘂𝗿𝗮𝗹 𝗔𝗛𝗔
Natural AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดซีตริก (Citric Acid), กรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid), กรดแลคติก (Lactic Acid) เป็นต้น สารสกัดธรรมชาติเหล่านี้ จะมีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนและลดการอักเสบที่ก่อให้เกิดสิว
ข้อดีของ Natural AHA
- ป้องกันสิว ลดจุดด่างดำ
Natural AHA ทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิว ขจัดสิ่งสกปรก ลดการอุดตันและอักเสบที่เป็นสาเหตุของสิว
- ลดเรือนริ้วรอย เสริมสร้างคอลลาเจน
นอกจากช่วยเร่งผลัดเซลล์ผิวแล้ว Natural AHA ยังกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อหรือคอลลาเจนขึ้นมาทดแทน ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ฟื้นฟูผิวแห้งเสีย
Natural AHA ช่วยปรับสมดุลค่า PH เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
ข้อควรระวังในการใช้ Natural AHA
- อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
เช่น อาการคัน รอยแดง หรือผิวไหม้ ซึ่งปริมาณความเข้มข้นโดยรวมของ Natural AHA ควรไม่เกิน 10% หากมากกว่านั้นควรต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์
- หลังใช้ Natural AHA ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่แรงจ้า
และควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง เพราะกรด AHA จะทำให้ผิวไวต่อรังสี UV มากขึ้น
2.𝗡𝗮𝘁𝘂𝗿𝗮𝗹 𝗣𝗛𝗔
𝗡𝗮𝘁𝘂𝗿𝗮𝗹 𝗣𝗛𝗔 หรือ Polyhydroxy acids เป็นอนุพันธ์ของ AHA แต่มีความแตกต่างตรงที่ขนาดโมเลกุลใหญ่กว่า มีความสามารถในการละลายน้ำได้น้อยกว่า AHA แต่ก็มีข้อดีตรงที่ มีความอ่อนโยนต่อผิว ช่วยลดการระคายเคืองได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
ข้อดีของ Natural PHA
- กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
ช่วยป้องกันการเกิดสิวโดยการขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ สิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบของผิว
- ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน และคงความชุ่มชื้น
ด้วยการที่ PHA เป็นอนุพันธ์ของ AHA จึงมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน ที่นอกจากจะลดการเกิดสิวแล้วยังช่วยปรับสภาพผิวและคงความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดี
- เหมาะกับทุกสภาพผิว
Natural PHA มีความอ่อนโยนสูง สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
ข้อควรระวังในการใช้ Natural PHA
- เห็นผลช้ากว่า Natural AHA
ด้วยโมเลกุลที่ใหญ่กว่ารวมถึงความสามารถในการละลายน้ำต่ำกว่า จึงทำให้ประสิทธิภาพของ PHA จะลดลงมาอยู่ที่ 60 – 70% เมื่อเทียบกับ Natural AHA ในปริมาณเท่ากัน
- อาจเกิดอาการระคายเคืองได้
แม้ว่าจะมีคุณสมบัติที่อ่อนโยนต่อผิว แต่ด้วยฤทธิ์ที่เป็นกรดก็อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองได้บ้าง การเริ่มต้นใช้ ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆ แล้วค่อยปรับให้สูงขึ้น
3. 𝗦𝗮𝗹𝗶𝗰𝘆𝗹𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 (𝗕𝗛𝗔)
กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) หรือที่รู้จักกันในชื่อ BHA (Beta Hydroxybenzoic acid) เป็นกรดอินทรีย์ที่สร้างได้จากพืช อย่างเปลือกต้นวิลโลว์ รวมถึงการสังเคราะห์ทางเคมี คุณสมบัติเด่นของ 𝗦𝗮𝗹𝗶𝗰𝘆𝗹𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 (𝗕𝗛𝗔) คือการลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงมักถูกนำมาใช้ในการขัดผิว หรือกำจัดสิวอีกด้วย
ข้อดีของ 𝗦𝗮𝗹𝗶𝗰𝘆𝗹𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 (𝗕𝗛𝗔)
- ช่วยลดสิวอุดตัน
𝗦𝗮𝗹𝗶𝗰𝘆𝗹𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 (𝗕𝗛𝗔) ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกและขจัดสิ่งสกปรก ลดการอุดตัน รวมถึงช่วยสลายสิวอุดตันที่มีอยู่
- ลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวอย่างสิว ผดผื่น และอาการอักเสบของผิว
- มีประโยชน์ทางการแพทย์ในด้านอื่นๆ
มีการนำ 𝗦𝗮𝗹𝗶𝗰𝘆𝗹𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 (𝗕𝗛𝗔) ไปใช้ในการรักษาทางการแพทย์ด้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เช่น โรคสะเก็ดเงิน รังแค หูด ตาปลา เป็นต้น
ข้อควรระวังในการใช้ 𝗦𝗮𝗹𝗶𝗰𝘆𝗹𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 (𝗕𝗛𝗔)
- ไม่ควรใช้กับบริเวณที่ผิวหนังอักเสบ เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น
- อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
ปัจจุบัน 𝗦𝗮𝗹𝗶𝗰𝘆𝗹𝗶𝗰 𝗔𝗰𝗶𝗱 (𝗕𝗛𝗔) ที่ อย. อนุญาตให้ใช้ในสกินแคร์ หรือเครื่องสำอาง ต้องมีความเข้มข้นไม่เกิน 2% เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวได้ - ไม่เหมาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์ / ผู้ที่กำลังให้นมบุตร
ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ภายนอกหรือแบบรับประทาน หากมีความจำเป็นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนทุกครั้ง
4.𝗭𝗶𝗻𝗰 𝗣𝗖𝗔
𝗭𝗶𝗻𝗰 𝗣𝗖𝗔 เป็นหนึ่งในสารสกัดตระกูล Zinc แต่มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า ในด้านการลดความมัน และการช่วยให้ผิวสมานตัวจากแผลได้เร็วขึ้น นอกจากจะนิยมในการใช้เป็นสารสกัดลดสิว ในสกินแคร์แล้ว ยังมีการใช้ 𝗭𝗶𝗻𝗰 𝗣𝗖𝗔 ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น แชมพูหรือครีมบำรุงผมสูตรกำจัดรังแคและความัน เป็นต้น
ข้อดีของ 𝗭𝗶𝗻𝗰 𝗣𝗖𝗔
- ลดความมันของผิว
ซึ่งดีต่อผู้ที่มีผิวมัน ในการควบคุมความมันส่วนเกินที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนจนทำให้เกิดสิว
- รอยแผลจากสิวสมานตัวไวขึ้น
ช่วยลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ การอักเสบของผิวบริเวณที่มีรอยแผลจากสิว
ข้อควรระวังในการใช้ 𝗭𝗶𝗻𝗰 𝗣𝗖𝗔
ในความเป็นจริงแล้ว Zinc PCA รวมถึง Zinc ชนิดอื่นๆ ค่อนข้างปลอดภัยอย่างมากเมื่อใช้เป็นสารสกัดลดสิว ในสกินแคร์ แต่ก็มีข้อควรระวังเมื่อต้องใช้ Zinc ในรูปแบบของการรับประทาน เพราะอาจส่งผลเสียต่อผู้ที่มีภาวะเสี่ยงได้ เช่น สตรีมีครรภ์, ผู้ที่เป็นเบาหวาน, ผู้ที่เป็นความดัน หรือมีอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ที่ต้องมีการจำกัดการได้รับปริมาณ Zinc ในแต่ละวัน
5. 𝗡𝗶𝗮𝗰𝗶𝗻𝗮𝗺𝗶𝗱𝗲
Niacinamide คือ วิตามินบี 3 อยู่ในกลุ่มวิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B-Complex) ปกติแล้วมักพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา เมล็ดพืช และพืชตระกูลถั่ว ซึ่ง Niacinamide มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากมายโดยเฉพาะในด้านการปรับสมดุลการผลิตน้ำมันขอองผิว และการกระชับรูขุมขน จึงทำให้เป็นที่นิยมใช้เป็นสารสกัดลดสิว ในสกินแคร์
ข้อดีของ Niacinamide
- ปรับสมดุลการผลิตน้ำมันของผิว
และยังช่วยคงความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวได้ - ปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก
เช่น สภาพอากาศ มลพิษ ช่วยปกป้องไม่ให้ความชุ่มชื้นระเหยออกจากผิว ชะลอความเสื่อมและการเกิดริ้วรอยก่อนวัย - ปรับสีผิว ลดเรือนรอยแดงรอยดำ
ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดงรอยดำที่เกิดจากสิว รอยโรคผิวหนังอื่นๆ หรือการอักเสบได้
ข้อควรระวังในการใช้ Niacinamide
- อาจเกิดการระคายเคืองได้
โดยปกติแล้ว Niacinamide มักไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง แต่ในผู้ใช้บางรายอาจเกิดการระคายเคืองหลังใช้ร่วมกับครีมบำรุง รวมถึงการใช้ Niacinamide ร่วมกับสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล อาจกระตุ้นให้ผิวระคายเคืองได้ง่ายขึ้น
สร้างแบรนด์สกินแคร์ของคุณเอง กับ โรงงานผลิตสกินแคร์ วธูธร เรามีสารสกัดให้เลือกครบครัน พร้อมให้คำแนะนำทุกขั้นตอน
เริ่มต้นสร้างแบรนด์สกินแคร์กับพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้ “วธูธร” มีประสบการ์ณมากกว่า 10 ปี ในการผลิตครีมสำหรับคลินิก เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สำหรับโรงพยาบาลอย่างครบวงจร ภายใต้มาตรฐาน GMP ระดับสากล พร้อมบริการสร้างแบรนด์ ภายใต้แบรนด์ของคุณ เลือกได้ทั้งแบบ OEM (ผลิตภัณฑ์สูตรพร้อมสร้างแบรนด์) และ ODM (พัฒนาสูตรขึ้นใหม่ลิขสิทธิ์เฉพาะแบรนด์ของคุณ) พร้อมทั้งมีสารสกัดให้เลือกอย่างครบครัน ปลอดภัยและได้มาตรฐาน
ตอบโจทย์ทุกความต้องการสร้างแบรนด์ พร้อมให้บริการแบบครบวงจร
RESEARCH & DEVELOPMENT – รองรับทุกไอเดียการสร้างแบรนด์ที่คุณต้องการ ด้วยบริการวิจัย และ พัฒนาสูตร โดยนักผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (R&D SPECIALIST) โดยนักวิจัย เภสัชกร และ นักวิทยาศาสตร์ พร้อมทีมที่ปรึกษา
PACKAGING DESIGN & BRANDING – ออกแบบโลโก้สินค้า แบนเนอร์ แพคเกจจิ้ง และงานอาร์ตเวิร์ค ให้มีความสวยงาม น่าสนใจ น่าดึงดูด บ่งบอกถึงเอกลักษณ์แบรนด์ ตอบโจทย์ความต้องการ
COSMETIC FILLING – บริการวางแผน และบรรจุเครื่องสำอาง แบ่งบรรจุตามปริมาณด้วยมาตรฐานระดับสากล พร้อมเครื่องจักรทันสมัย มีทีมประกันคุณภาพ (QA), การตรวจสอบ และ การควบคุมคุณภาพ (QC) คอยดูแล และ ตรวจสอบทุกขั้นตอนการผลิตสินค้าของลูกค้า เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่
ต้องการส่งสินค้าเข้าคลังโมเดิร์นเทรด
PACKAGING TEST – บริการเพื่อตรวจสอบ และควบคุมคุณภาพสินค้าก่อนวางขายจริง รวมทั้งบริการทดสอบการรั่วซึมของบรรจุภัณฑ์ (Leakage) ความเข้ากันได้ระหว่างเนื้อครีม กับ บรรจุภัณฑ์ (Compatibility) และ มีบริการทดสอบความคงตัวของเนื้อครีม (Stability) เพื่อประเมินอายุการเก็บรักษาของเนื้อครีม
PRINTING & SCREEN – บริการงานผลิต และ พิมพ์ฉลากลงบนเครื่องสำอาง โดย ใช้เครื่องผลิตที่ทันสมัย สามารถออกแบบได้ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อตอบรับความต้องการหลากหลายรูปแบบของลูกค้า ตั้งแต่ จำนวนน้อย ไปถึง จำนวนมาก
CERTIFICATE DOCUMENT – อำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยบริการจดแจ้งเอกสารรับรอง ขอหนังสือรับรองการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และ ยากระทรวงสาธารณสุข (อย.) (CFS) เพื่อแสดงว่าสามารถจัดจำหน่ายทั้งในประเทศ และ หนังสือรับรอง (Certificate of Origin) ว่ามีการผลิตที่แท้จริงในประเทศ เพื่อใช้รับรองการขอใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในการนำเข้า
และบริการอื่นๆ แบบครบวงจร – ทั้งSTUDIO & PRODUCTION ถ่ายภาพสินค้าทั้งภาพนิ่ง วิดีโอ สร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงบริการอบรม และให้คำปรึกษาการสร้างแบรนด์ และการทำตลาดออนไลน์ Digital Marketing, Online Marketing เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการทำโฆษณา การตลาด และ การสื่อสารเพื่อสร้างยอดขายและผลกำไรให้กับธุรกิจของลูกค้าผ่านช่องทาง E-Commerce และช่องทาง social media ต่างๆ
ติดต่อเราเพื่อขอรับคำปรึกษา
โทรศัพท์ : 02-961-7944
Hotline: 062-598-4224
Email: wathoothornsales@gmail.com, sales@wathoothorn.com
จันทร์ – ศุกร์ : 08.30-17.30 (หยุด เสาร์-อาทิตย์)